สภาพแวดล้อมในการบริหารธุรกิจฯ

สภาพแวดล้อมในการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ มีทั้งหมด 4 ชนิด เรียกสั้น ๆ ว่า PEST หรือ STEP ประกอบไปด้วย

P ย่อมาจาก Politics & Laws หมายถึง สภาพแวดล้อมทางการเมืองและกฎหมาย
E ย่อมาจาก Economics หมายถึง สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
S ย่อมาจาก Social & Culture หมายถึง สภาพแวดล้อมทางสังคมและวัฒนธรรม
T ย่อมาจาก Techonology หมายถึง สถาพแวดล้อมทางเทคโนโลยี

ทั้ง 4 ด้าน มีความสัมพันธ์กับการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศมาก เพราะถ้าหากสภาพแวดล้อมเกิดความเปลี่ยนแปลงก็จะส่งผลต่อระบบการบริหารธุรกิจฯขององค์กรได้ ดังนั้น PEST จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการบริหารธุรกิจฯ ถ้าสภาพแวดล้อมทั้ง 4 ด้านมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น ก็จะส่งผลดีทำให้ธุรกิจขององค์กรต่าง ๆ ดีขึ้นตามไปด้วย ...

พี่พบน้อง IBM รุ่น 4

....07.00น. เช้าแล้ว ๆ ๆ ตื่น ๆ ๆ .... อาบน้ำแต่งตัว คิดในใจว่าจะไปทันรึเปล่า เพราะว่านัดกับเพื่อนไว้ด้วย

....08.30น. เดินเข้า ม. ไปที่หอสมุด ......เอ๋อ ค่ะ !! แทบจะไม่เห็นเพื่อน ๆ เห็นแต่พี่รุ่น 3 คิดในใจว่า "เอาละหว่าทำไงดี เพื่อนก็ไม่มี จะสนุกมั๊ยเนี่ย"
แต่ก็ตัดสินใจว่ามาแล้วก็ต้องได้อะไรกลับไปบ้างล่ะ ... ก็เลยทำกิจกรรมกับพี่ ๆ และเพื่อน ๆ รุ่น 4 กิจกรรมที่พี่ ๆ จัด สนุกดีค่ะ ทำให้รู้จักเพื่อนเพิ่มขึ้นเยอะ กล้าที่จะคุยกับเพื่อนใหม่ ๆ ได้สังคม IBM ที่อบอุ่น ประทับใจในความใกล้ชิด เอาใจใส่ของพี่ ๆ รุ่น 3 ที่มีให้ รู้สึกว่าไม่กลัวที่จะเข้าไปพูดคุย หรือหยอกล้อเลย

...ความประทับใจต่อพี่ปิง (พี่รหัส) ...พี่ปิงเป็นพี่ที่น่ารักมากค่ะ เป็นคนเงียบ ๆ พูดน้อย น่ารักดีค่ะ เอาใจใส่น้องดีมาก ๆ ... ^^

...ขอบคุณพี่ ๆ ที่จัดงานนี้เพื่อน้อง..... " ไม่เสียใจที่เลือก IBM ".....

ปฐมนิเทศ IBM รุ่น 4

วันปฐมนิเทศ IBM วันที่ 19 มิ.ย. 52
พอรู้ว่าลงชื่อแล้วต้องจับที่นั่ง ทำให้ไม่ได้นั่งกับเพื่อน ตอนแรกก็หวั่น ๆ ว่าจะได้นั่งข้างใคร จะกล้าคุยกับเพื่อนใหม่รึเปล่า แต่พอได้ที่นั่งก็ดีนะ เพราะว่าได้นั่งใกล้กับเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันมาก่อนแล้ว เลยทำให้ไม่เกร็งเท่าไหร่ เข้าไปก็รู้สึกว่า โอ้ววววว พี่ ๆ เยอะจัง พี่บางคนก็เคยคุยกันบางคนก็ไม่เคยเห็นหน้ากันด้วยซ้ำไป ความรู้ที่ได้ก็มีมากมายได้ทั้งแนวทางในการเรียนจากอาจารย์หัวหน้าภาค ได้เทคนิคการเรียนจากพี่ ๆ รุ่น 1 และ 2 ทำให้รู้สึกอบอุ่น และคิดไม่ผิดที่เลือกเรียนภาค IBM เรื่องของกิจกรรมต่าง ๆ พอได้รู้รายละเอียดของการทำกิจกรรมครั้งก่อน ๆ ที่รุ่นพี่ได้ทำกิจกรรมกันมา มันก็ทำให้รู้สึกอยากจะเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของ IBM กับเค้าบ้าง
เรื่องของการพบพี่ ๆ รุ่น 3 ก็ทำให้รู้สึกว่าอบอุ่น ไม่กลัวที่จะซักถามอะไรจากพี่ ๆ แล้วพี่ก็ดูจะเป็นกันเอง เข้าถึงง่ายกว่าที่คิดไว้ ในเรื่องของกิจกรรมพี่รหัส น้องรหัส มันก็แปลก ๆ ดีที่เอาชื่อพี่รหัสมาติดไว้ที่โต๊ะ ตอนแรกก็งง ๆ ว่าเพื่อนเค้าก้มดูอะไรกันน่ะ 55 ด้วยความอยากรู้นั่นแหละถึงได้หันไปถามเพื่อนข้าง ๆ ว่า "นี่ ๆ ดูอะไรกันเหรอ" ก็เลยได้รู้ว่ามีชื่อพี่รหัสอยู่ใต้โต๊ะนี่เอง ^^ 55+ เซ่อจิง ๆ เพื่อนเค้ารู้กันหมด ไม่รู้อยู่คนเดียว พี่รหัสเราชื่อ "พี่ปิง" เป็นหนึ่งในคณะกรรมการรุ่น 3 ด้วยล่ะ เจอตอนแรกเกร็งสุด ๆ ดูเหมือนพี่เค้าจะเป็นคนเนี๊ยบ ๆ พูดน้อย (ต่อยหนักรึเปล่าไม่รู้ 55)แต่พอได้คุยตอนแรกพี่เค้าพูดน้อยจิง ๆ อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด แต่พอได้คุยแล้วก็ ok งั้นแลกเบอร์ แลก e-mail เลยดีกว่า พี่ปิงก็บอกว่ามีอะไรปรึกษาได้ทุกเรื่อง ส่วนหนังสือถ้ายังใช้เล่มเดียวกันอยู่ก็บอกได้ ถ้ามีจะเอามาให้ ^^ เข้าทางเราล่ะ หนังสือ ๆ ๆ ไม่ต้องซื้อเองแล้ว 555+ แต่ก็ยังไม่กล้าขออยู่ดีเพราะต่างคนต่างก็ไม่ค่อยพูดกันทั้งคู่ ทั้งเราทั้งพี่ปิง ไม่ถนัดคุยต่อหน้า ตกเย็นกลับห้องมาก็ add e-mail พี่ปิงไป พอดึก ๆ เจอพี่ปิง on msn เลยได้คุยกันอีกครั้ง แต่คราวนี้แปลกใจมากมาย "พี่ปิงคุยไม่หยุด" ไม่เหมือนกับคนที่เจอเมื่อตอนบ่าย กลายเป็นคนอัธยาศัยดีเวอร์ ๆ งงค่ะ เราก็เลยแอบแซวพี่ปิงไป ทุกอย่างก็เลยกลายเป็นความรู้สึกดี ๆ ไม่กลัวที่จะพูดคุยหรือขอคำปรึกษากับพี่ ๆ รุ่น 3

สรุปความรู้สึกได้เลยว่า "คิดไม่ผิดที่เลือกภาค IBM" ค่ะ

จัดอันดับประเทศที่มีความเป้นโลกาภิวัตน์

โลกาภิวัตน์ หมายถึง กระบวนการที่ประชากรของโลกถูกหลอมรวมกลายเป็นสังคมเดี่ยว กระบวนการนี้เกิดจากแรงของอิทธิพลร่วมทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยีและสังคม-วัฒนธรรมและการเมือง


การวัดความเป็นโลกาภิวัตน์
โลกาภิวัตน์เฉพาะทางเศรษฐกิจ การวัดอาจทำได้หลายทางที่แตกต่างกัน โดยดูจากการรวมศูนย์การเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่อาจบ่งชี้ความเป็นโลกาภิวัตน์เห็นได้ 4 แนว คือ
1. สินค้าและบริการ เช่น การส่งออกและนำเข้าสินค้าที่เป็นสัดส่วนกับรายได้ต่อหัวของประชาชาติ
2. แร่งงานและคน เช่น อัตราการย้ายถิ่นฐานเข้าและออกโดยชั่งน้ำหนักกับประชากร
3. เงินทุน เช่น การไหลเข้าและไหลออกของเงินลงทุนทางตรงเป้นสัดส่วนกับรายได้ประชาชาติและรายได้ต่อหัวของประชากร
4. เทคโนโลยี เช่น การเคลื่อนไหวของงานวิจัยและพัฒนา สัดส่วนของประชากร (และอัตรการเปลี่ยนแปลงที่ตามมา) ใช้เทคโนโลยีที่เกิดใหม่ (เทคโนโลยีขั้นก้าวหน้า เช่น การใช้โทรศัพท์ รถยนต์ อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ฯลฯ)

ในสวิสเซอร์แลนด์ KOF เป็นดัชนีมุ่งชี้วัดไปที่มิติหลัก 3 ของโลก ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคมและการเมือง นอกจากการใช้ตัวชี้วัดหลักทั้งสามตัวนี้แล้ว ดัชนีรวมของโลกาภิวัตน์และตัวชี้กึ่งดัชนีโยงไปถึงการเคลื่อนไหวจริงทางเศรษฐกิจ ข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อของบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร และข้อมูลของความใกล้ชิดติดต่อกันทางวัฒนธรรม เหล่านี้ถูกนำมาใช้ในการคำนวณด้วย มีการเผยแพร่ข้อมูลนี้เป็นรายปี เป็นข้อมูลรวมของประเทศต่าง ๆ 122 ประเทศ

จากดัชนี KOF ประเทศที่เป็นโลกาภิวัตน์มากที่สุดในโลกได้แก่ เบลเยี่ยม ตามด้วยออสเตรีย สวีเดน สหราชอาณาจักร และ เนเธอร์แลนด์ ส่วนประเทศที่เป็นโลกาภิวัตน์น้อยที่สุดตามดัชนี KOF ได้แก่ ไฮติ เมียนมาร์ สาธารณรัฐแอฟริกากลาง และ บูรุดี การวัดอื่น ๆ มองภาพโลกาภิวัตน์ในฐานะเป็นกระบวนการที่เป็นปฏิสัมพันธ์ของการหลอมกระจายเพื่อหาระดับของผลกระทบ (Jahn 2006)
เอ.ที เคียร์นี (A.T. Kearney) และวารสารนโยบายต่างประเทศ (Foreign Policy Magazine) ได้ร่วมกันตีพิมพ์ "ดัชนีโลกาภิวัตน์" (Globalization Index) ขึ้นอีกแหล่งหนึ่ง จากดัชนีเมื่อ พ.ศ. 2549 ผลปรากฎว่า สิงคโปร์ สาธารรัฐไอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ แคนาดา และเดนมาร์กเป็นประเทศที่เป็นโลกาภิวัตน์มากที่สุด อียิปต์ อินโดนีเซีย อินเดีย และอิหร่านเป็นโลกาภิวัตน์น้อยที่สุด ส่วนไทย อยู่ในลำดับที่ 45 และจากดัชนีในปีถัดมาคือ พ.ศ. 2550 อันดับความเป็นโลกาภิวัตน์ของไทย ตกลงไปอยู่ที่อันดับที่ 59

มึน ๆ งง ๆ

สัปดาห์ที่ 2 ของ IB321 วันนี้เข้าเนื้อหาวันแรก ก็ดีไม่มีอะไรยากมากมาย แต่ก็แอบง่วงเหมือนกันน๊า ...

ช่วงเลิกก็จับกลุ่มกับเพื่อน ได้อยู่กับเพื่อนที่รู้จักกัน มันคงทำให้ทำงานด้วยกันง่ายขึ้นล่ะมั้ง แต่ก็จับกับเพื่อนแบบงง ๆ

เป็นผลมาจากอาการง่วงนอนนั่นแหละ 555+ ก็ได้คุยกันบ้างแล้วว่าแต่ละคนมีความคิดเห็นอะไรบ้าง

ทำให้ได้ไอเดียอะไรหลาย ๆ อย่างเหมือนกัน ... งั้นก็ต้อง สู้ ๆ แล้วล่ะ ดูจะเป็นงานหนักเอาการเล้ยยย ^^

น่าเบื่อ

วันนี้มันน่าเบื่ออะไรแบบนี้เนี่ย ทั้งฝนตก ทั้งว่างจัด ........ ไม่รู้จะทำอะไรแล้วเนี่ย เบื่อ จิง ๆ เลยยย

ความรู้สึกวันแรก....

ความรู้สึกที่ได้เรียนวิชา IB321 ในวันแรก รู้สึกตื่นเต้นนิด ๆ เพราะเพื่อน ๆ ที่เรียนด้วยกันใน section ทั้งหมดคือเพื่อนที่เลือกสาขาเดียวกัน 55 มันก้ทำให้ได้ความรู้สึกอีกแบบ แต่เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ก้เคยเห็นกันมาบ้าง ส่วนวิชาเรียนก็ดูจะยากใช้ได้ จะไหวมั๊ยเนี่ย ?? แต่ยังไงก้จะสู้ถึงที่สุด ถ้าไม่แย่ซะก่อน 55 ^^ แต่อาจารย์ก็ดูจะใจดี แล้วก้เป็นกันเอง มันก้คงช่วยให้ง่ายขึ้นเวลาที่สงสัยอะไรเกี่ยวกับงาน ไงก้จะสู้ต่อไป.........fighting ค๊า


เขียนของวันที่ 5/06/2009 เพราะว่าเพิ่งจะทำ blog เสร็จจ้า ^^